#livestream is easy. (มั๊ก มั๊ก...)

และแล้วก็ประสบผลสำเร็จ...สำหรับช่องทีวีของเรา
กว่าจะได้มานั่งทำตั้งแต่เช้ายันเย็น

เมื่อเช้า... ลองสร้างใน (http://www.ustream.tv) ก่อนเลย

แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดฝัน (คิดว่าง่าย... ไงค่ะ)
มันติดปัญหาที่อะไรก็ไม่รู้ แต่น่าจะเป็นที่โปรแกรม Flash Player

นั่งครุ่นคิดอยู่นานว่าจะเอาไงดี???
ถ้าติดปัญหาแบบนี้ ไม่ส่งดีกว่ามั้ง!!!
แต่ก็เหมือนกันนางฟ้ามาโปรด... น้องมิว (น้องในคลาส) คนนี้เลยค่ะ



บอกให้ใช้ (https://new.livestream.com)

พอลองใช้ดูก็ง่ายอย่างที่น้องมิวบอกนะคะ
ไม่ติดปัญหาอะไรเลย ง๊าย ง่าย...

แต่ถ้าใครติดปัญหาใช้ไม่เป็น ไม่รู้ว่าวิธีการสร้างเป็นยังไง
ลองเข้าไปอ่านในบล็อคของน้องมิวได้นะคะ

http://miwkiiho.blogspot.com/

#ผลบุญ-กรรม ของหญิงทำแท้ง

ผลบุญ - กรรม ของหญิงทำแท้ง

โดย พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)

" กรรมที่เกิดจากการทำแท้ง การทำแท้งถือว่าเป็นบาปที่ร้ายแรงเทียบเท่ากับการฆ่าคนคนหนึ่งเลยทีเดียว

ดังนั้น หากเรารู้ว่าเราไม่พร้อมที่จะมีลูก เราก็ควรจะคุมกำเนิดเป็นอย่างดี เพราะนั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ มิใช่ปล่อยให้เกิดการตั้งครรภ์มาแล้วไปทำแท้ง นั่นคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งถือว่าเป็นบาปที่ยิ่งใหญ่และร้ายแรงอย่างมหันต์ "

เรื่องมีอยู่ว่า มีหญิงคนหนึ่งผิวขาว ร่างท้วม หน้าตาอิ่มเอิบ อายุ 42 ปี เธอตาย เจ้าหน้าที่พาไปสำนักพญายม เรื่องนี้เป็นนิมิตลอยมาให้เห็นไม่ใช่ทิพยจักขุญาณ คือเมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้นอนภาวนาตามปกติ อารมณ์เคลิ้มเห็นภาพนี้ที่สำนักพญายม มีหญิงคนหนึ่งเด็กเล็กคนหนึ่ง เด็กคนนี้เล็กมาก มีสภาพนอน พญายมท่านถามหญิงคนนั้นว่า "แม่หนูเธอทำแท้งหรือ" เธอรับว่า "ใช่เจ้าค่ะ"  ท่านถามว่า "เมื่อทำแล้ว หลังจากนั้นทำบุญอะไรบ้าง" เธอบอกว่า "ที่จำได้ดีเพราะทำเป็นประจำก็คือ บูชาพระ ว่านะโม 3 จบ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง และสวดอิติปิโส ภะคะวา แล้วกรวดน้ำอุทิศให้ลูกที่ทำแท้ง ขออย่าจองเวรจองกรรมเลย เมื่อถึงปีก็เป็นเจ้าภาพบวชพระทุกปี อุทิศส่วนกุศลให้ลูกที่ทำแท้ง" เธอพูดได้ชัดเจน ชัดถ้อย ชัดคำ ไม่เหมือนรายอื่นๆ ที่พูดไม่ค่อยเต็มเสียง และมีมากรายไม่พูดเลย พญายมท่านบอกว่า "บุญเธอมีมากและเด็กก็ไม่ได้จองเวรเธอ เธอไปรับผลความดีก่อน คือไปสวรรค์" เมื่อเธอปลอดโทษแล้ว ผลบุญก็ตอบสนองเธอ คือ มีรูปสวยทันที เครื่องแต่งกายสวยมาก แพรวพราวเป็นระยิบ ในนิมิตว่ามีโอกาสคุยกับเธอถึงความเป็นมาต่างๆ เธอเล่าให้ฟังว่า "เมื่อเธออายุย่าง 17 ปี พี่สาวแต่งงานได้สองปี คลอดบุตร กำลังอยู่ไฟ พี่เขยเธอเข้าห้องผิดไปเข้าห้องเธอเข้า เธอเห็นใจพี่เขย เลยเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาได้สองเดือน เมื่อเห็นท่าเรื่องจะบานปลาย จึงร่วมมือกับพี่เขยหายาขับเลือดอย่างแรง มีความร้อนสูง กินยานั้นเข้าไปสองครั้ง เด็กเลยไหลออกมา แต่เมื่อฟังผู้ใหญ่พูดกันว่าคนทำแท้งนั้นบาปมากเพราะฆ่าเด็กในครรภ์ จึงตั้งใจบูชาพระและสวดมนต์ทุกวัน เมื่อสวดจบแล้วก็นั่งหลับตานึกถึงลูกที่ตาย ขอให้มารับส่วนบุญและไม่จองเวร อ้อนวอนขอให้พระพุทธเจ้าช่วย ทำอย่างนี้เป็นปกติทุกวัน เมื่อถึงฤดูกาลบวชพระก็เป็นเจ้าภาพบวชพระให้ปีละองค์ทุกปี อุทิศให้ลูก" ต่อมา  อายุ 42 ปี 3 เดือน เธอป่วยด้วยโรคทางเดินอาหาร เธอนึกถึงพระพุทธรูปที่เคยบูชา นึกถึงการใส่บาตร นึกถึงการบวชพระ แล้วแต่จังหวะไหนจะนึกอะไรได้ ที่มั่นใจจริงๆ คือ พระพุทธรูปที่บูชา และภาพพรท่านพระที่บวช เมื่อตอนตายมีคน 4 คนไปรับ ตอนนั้นเห็นพระพุทธรูปที่เคยบูชาลอยมา องค์ใหญ่กว่าที่เคยบูชา พระพุทธรูปท่านพูดว่า "พาเขาไปเถอะ ฉันไปด้วย" แล้วท่านก็ลอยนำไป เมื่อถึงพญายมท่านก็ยังลอยอยู่ตลอดเวลาการสอบสวน เมื่อพญายมสอบสวนเสร็จ ภาพพระพุทธรูปจึงหายไป เมื่อถามเธอว่าเธอจะไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน เทวดาที่เรียกว่าเทวทูตที่จะนำเธอไปส่ง ท่านตอบแทนเธอว่า "ไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ครับ" แล้วท่านก็พาเธอไป...

ในหนังสือเล่มนี้ยังบอกวิธีแก้กรรมให้ด้วยค่ะ... ลองอ่านกันดูนะคะ

วิธีแก้กรรม
1. ทั้งหญิงและชายจะต้องปล่อยเต่าหรือปลา (ถ้าเป็นปลาให้ซื้อปลาในตลาดสด แล้วนำไปปล่อยที่แม่น้ำ อย่าปล่อยในบึงหรือคลองเล็กๆ ส่วนเต่าอยู่ในที่ที่มีกระแสน้ำไหลไม่ได้ ต้องเลือกปล่อยให้ถูกที่ ให้สัตว์ที่ถูกปล่อยสามารถอยู่รอดได้) ให้ครบตามอายุของตน เช่น ถ้าอายุ 25 ปี ก็ให้ปล่อยปลา 25 ตัว ต้องนับจำนวนปลาแยกกับอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น ถ้าภรรยาอายุ 25 ปี สามีอายุ 30 ปี แสดงว่าทั้งคู่จะต้องปล่อยปลายหรือเต่ารวมทั้งสิ้น 55 ตัว คือ ฝ่ายหญิงปล่อย 25 ตัว และฝ่ายชายปล่อย 30 ตัว โดยจะทำทีเดียวให้ครบหรือค่อยๆ ทำจนกว่าจะครบก็ได้ แต่ระยะเวลา อย่าให้เกิน 3 เดือน
2. จะต้องจัดชุดสังฆทานตามรายการข้างล่างถวายพระ โดยทำให้ครบ 7 ครั้ง จะทำทุกเดือน หรือทุก 3 เดือนทำ 1 ครั้งก็ได้ ให้ครบ 7 ครั้ง จะทำให้ชะตาชีวิตดีขึ้น หมดเคราะห์ เจริญรุ่งเรืองสืบไป...

ชุดสังฆทานประกอบด้วย...
1. ชุดไตรจีวรครบ 1 ชุด
2. พระประจำวันเกิด 5 นิ้ว 1 องค์
3. กระติกน้ำแข็ง 1 ใบ
4. กระโถน 1 ใบ
5. ไฟฉายพร้อมถ่าน 1 กระบอก
6. กรรไกรตัดเล็บ 1 อัน
7. หนังสือมนต์พิธี 1 เล่ม
8. ยารักษาโรค 1 ชุด
9. ข้าวสารพอประมาณ
10. ดอกไม้ตามกำลังวัน
11. ธูปตามกำลังวัน
12. เทียนตามกำลังวัน
13. เงินตามสมควร

หมายเหตุ : กำลังวันของแต่ละวัน คือ พระอาทิตย์ 6 , พระจันทร์ 15 , พระอังคาร 8 , พระพุธ 17 ,
พระเสาร์ 10 , พระพฤหัส 19 , พระราหู 12 , พระศุกร์ 21

Jammy อยากให้ผู้หญิงหลายๆ คน ได้ไถ่บาปที่ตัวเองเคยได้ทำ...

ขอให้โชคดี และ อย่าได้หลงผิดคิดไปทำอีกนะคะ

ยังไงเขาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเรานะ

(Jammy หวังดีกับผู้หญิงทุกคนนะคะ)

"อดีตแก้ไขไม่ได้ แต่ขอให้ทำปัจจุบันให้ดีกว่าที่เคยเป็น"

ขอบคุณเรื่องเล่าจาก หนังสือแก้กรรม! ทำเองได้ เรียบเรียงโดย : จิตศรัทธา พุทธานุภาพ

ขอบคุณภาพจาก http://horoscope.sanook.com

#แอโรบิค : แนะนำท่าพื้นฐาน ค๊าาาา....

สวัสดีวันศุกร์ที่สุขที่สุดเลยค่ะ... ฮึ ฮึ
วันนี้อะไร อะไร ก็ไม่เป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้เลย T_T
คิดไว้ว่าจะเคลียร์การบ้านทุกสิ่งทุกอย่างให้จบสิ้น
แต่ก็ไม่เป็นไปตามคาดหวังเอาไว้
เพราะหวัดบ้า มาเป็นอะไรวันนี้ก็ไม่รู้
ฟึดฟัด ฟึดฟัด ตลอดเลย...
แต่ไม่คิดที่ยอมแพ้นะคะ ยังไปต่อได้ค่ะ

วันนี้เลยมาทำตามสัญญาที่ให้ไว้ตามบล็อคที่แล้ว
ว่าจะนำคลิปวิดีโอท่าเต้นพื้นฐานของแอโรบิคมาฝากกัน
เป็นคลิปที่ไม่ได้ถ่ายเองหรอกค่ะ เพราะอาย เขิลด้วย คิคิ...

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับแอโรบิคก่อนว่าคืออะไร

แอโรบิกดานซ์ (Aerobic Dance) หมายถึง วิธีการออกกำลังกายชนิดหนึ่งที่นำเอาท่าบริหารกายต่างๆผสมผสานกับทักษะการเคลื่อนไหวเบื้องต้น และจังหวะเต้นรำที่จะกระตุ้นให้หัวใจและปอดต้องทำงานมากขึ้นถึงจุดหนึ่ง ด้วยระยะเวลาที่นานเพียงพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นการสร้างบรรยากาศในการออกกำลังกายที่สนุกสนานรื่นเริงลืมความเหน็ดเหนื่อยและเบื่อหน่ายได้ ทั้งยังสร้างความแข็งแรง ความทนทานของระบบกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียนเลือด หัวใจและปอดได้ดีขึ้น ทำให้รูปร่างสมส่วนมีบุคลิกภาพที่ดี

เมื่อรู้แล้วว่าแอโรบิคคืออะไร... คราวนี้มารู้จักท่าเต้นพื้นฐานของแอโรบิคกันเลยค่ะ

1. การย่ำเท้า Marching คือ การย่ำเท้าอยู่กับที่ ส่วนใหญ่แล้วจะย่ำเท้า 2 แบบคือ แบบกว้าง    (Marching Out) และแบบแคบ (Marching In)

2. การเดิน ( Walking ) คือ การก้าวเท้าไปยังทิศทางที่เคลื่อนที่ไป มีการถ่ายน้ำหนักตัวจากเท้าหนึ่ง
    ไปยังอีกเท้าหนึ่ง การเดินนั้นสามารถเดินไปข้างหน้า ข้างหลัง หรือเฉียง หรือเดินเป็นรูป

3. ก้าวรูปสี่เหลี่ยม ( Easy Walk ) คือ การก้าวเดินไปข้าง 1 ก้าว ถอยหลัง 1 ก้าว
     ลักษณะคล้าย V-step แต่วางเท้าเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรืการก้าวเดิน

4. การก้าวแตะ ( Step Touch สเต็ปทัช) คือ การยกเท้าหนึ่งไปด้านข้างแล้วยกเท้าอีกข้างหนึ่งไป       แตะแล้วทำสลับกัน ทิศทางการเคลื่อนไหวจะเป็นการก้าวแตะที่อยู่กับที่ หรือทำเป็นรูปตัวแอล หรือ
     ก้าวแตะหมุนรอบตัวเองก็ได้

5. ส้นเท้าแตะ ( Hell Touch ฮีลทัช) คือการแตะด้วยส้นเท้าข้างใดข้างหนึ่ง โดยแตะข้างหน้าหรือ
     ด้านหลังก็ได้

6. ปลายเท้าแตะด้านข้าง ( Side Tap ไซด์แทบ) คือการแตะด้วยปลายเท้าข้างใดข้างหนึ่ง
     โดยแตะด้านข้างหน้าซ้าย-ขวา สลับกัน

7. การยกส้นเท้า ( Lek Curl เล็คเคอ) คือการยกส้นเท้าขึ้นไปที่สะโพกด้านหลัง หรือการพับส้นเท้า
    ไปด้านหลัง การทำ Hamstring Curl หรือ Hamstring Curl Lek Curl นั้นทำได้ทั้งที่อยู่กับที่หรือ
     หมุนรอบตัวเอง (แฮมสตริงเคอ)

8. ก้าวไขว้ก้าวแตะ ( Grapevine เกรพวาย ) ก้าวไขว้ก้าวแตะ หรือเกรพวายคือการทำก้าวไขว้ขาไปหลังหรือหน้าก็ได้ การทำเกรพวายนั้นสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น เกรพวายธรรมดา หรือเกรพวายเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือเกรพวายหมุน 180 องศา

9. แมมโบ้ ( Membo ) คือการก้าวเท้าใดเท้าหนึ่งไปข้างหน้าแล้วย่อเข่าลงแล้วนำกลับสู่ที่เดิม และเปลี่ยนข้างทำ การทำแมมโบ้สามารถทำได้ทั้งข้างหน้าและด้านข้างก็ได้

10. ยกเข่า ( Knee Up นีอัพ) เป็นท่าการเคลื่อนไหวพื้นฐานในการพัฒนากล้ามเนื้อขาหรือ
       Knee Lift ได้อย่างดีดังนั้นแอโรบิก ด๊านซ์ทุกประเภทจึงมีท่าการยกเข่าทั้งการยกเข่าด้านหน้า
       (Front Knee Lift) หรือ นีลีฟ ด้านข้าง (Side Knee Lift) การยกเข่าเฉียง (Knee Cross)

11. การแตะขา (Kick คิก) การแตะขา ไปใช้ในทิศทางต่าง ๆ ทั้งการแตะไปด้านหน้า
       (foreward) เฉียง ( cross ) หลัง ( backward )และข้าง( sideward ) การแตะขาที่ถูกต้อง
       ควรเป็นการแตะขาไม่ใช่การสะบัดเข่า

12. ก้าวชิดก้าวแตะ ( Two Step ทูสเต็ป) คือการทำก้าวชิดก้าวแตะ หรือการทำก้าวแตะ 2 ครั้ง

13. สควอท ( Squats ) คือการนั่งยอง ๆ หรือ ย่อ ยืด ควรนั่งให้มุมสะโพกและเท้าเป็นมุม 90 %
       เท่านั้น ไม่ควรนั่งให้สะโพกชิดส้นเท้าเพราะจะทำให้เอ็นหรือกระดูกอ่อนที่หัวเข่ายืดมากเกินไป
       ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เข่าเจ็บ

14. ช่า ช่า ช่า( Cha Cha Cha ) คือการก้าวใดเท้าหนึ่งไขว้ไปด้านหน้า ย่ำเท้าหลัง แล้วนำเท้ากลับ
       ที่ก้าวไปข้างหน้ากลับมา ย่ำ ย่ำ ย่ำ สลับเท้า

15. ส่ายสะโพก ( Twis ) คือการส่ายสะโพกซ้าย – ขวา สลับกัน

16. Step Knee คือการย่ำเท้า 1-2 ก้าวขึ้นบน 3 แล้วยกเข่า

เมื่อรู้แล้วว่าท่าเต้นพื้นฐานของแอโรบิคมีอะไรบ้าง

ลองฝึกกันดูนะคะ พอฝึกได้แล้ว ก็ลองไปเต้นที่สนามจริง

ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะทุกแห่ง ห้างสรรพสินค้าต่างๆ หรือไม่ก็ตามหมู่บ้านใกล้บ้านคุณ

ครั้งแรกที่เริ่มเต้น... แน่นอนที่ต้อง เต้นไม่ทัน มองไม่เห็น มันท่าอะไรนะ

อาจจะทำให้ท้อและไม่อยากเต้น

อย่าเพิ่งท้อไปเลยค่ะ อย่างตัว Jammy เอง ครั้งแรกก็เป็นค่ะ

แต่ต้องอดทน พยายามฟังเสียงกลอง และจดจำท่าต่างๆ ให้ได้

เต้นติดต่อกันไม่เกิน 2 อาทิตย์ก็เต้นท่าพื้นฐานที่เข้ากับเพลงได้แล้ว

เมื่อเต้นเป็นก็จะสนุก มันส์ ติดลม ไม่อยากเลิกเต้นเลยล่ะค๊าาาา...

สู้ๆ อย่ายอมแพ้ เพื่อหุ่นที่สวยงามมมมมมม....

ขอบคุณข้อมูลจาก http://aerobicdanceproject.wordpress.com

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://static.th.groupon-content.net

#Knowledge รู้หรือไม่แมวมีถนัดซ้าย-ขวา น้องหมาฉลาดเท่าเด็ก 2 ขวบ

เดลิเมล์ – แมวเหมือนคนมากกว่าที่เราคิด นักวิจัยได้ข้อสรุปเจ้าเหมียวมีถนัดซ้าย-ขวาเหมือนคน ขณะที่สุนัขบางพันธุ์ฉลาดพอๆ กับเด็กสองขวบ เข้าใจคำพูดถึง 250 คำ นับเลขง่ายๆ ได้

คุณอาจคิดว่าหมาไม่สนใจอะไรนอกจากเรื่องกินกับเล่น แต่จริงๆ แล้วเจ้าตูบมีทักษะคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐาน และรู้ความหมายของคำบางคำ

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย เผยว่าสุนัขบางพันธุ์ฉลาดพอๆ กับเด็กอายุสองขวบ สามารถเข้าใจคำพูดถึง 250 คำ นับเลขได้จาก 1-5

ศาสตราจารย์สแตนลีย์ คอเรน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุนัขจากแคนาดา ได้ตรวจสอบผลศึกษาหลายฉบับเกี่ยวกับวิธีคิดของสุนัข รวมถึงทำการทดสอบที่พัฒนามาเพื่อวัดระดับพัฒนาการของเด็กน้อยแต่ถูกประยุกต์มาสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ

“โดยเฉลี่ยแล้วสุนัขมีทักษะด้านภาษาเทียบเท่าเด็กอายุ 2 ขวบ หมายความว่าพวกมันสามารถเข้าใจคำพูด สัญลักษณ์และสัญญาณถึง 165 แบบ

“สุนัขที่ฉลาดติดอันดับท็อป 20% สามารถเข้าใจคำพูด สัญลักษณ์และสัญญาณถึง 250 แบบ หรือเทียบเท่าเด็กอายุ 2 ขวบครึ่ง”

งานวิเคราะห์ของคอเรนยังพบว่า สุนัขสามารถนับเลขจาก 1-4 หรือ 5 และสังเกตเห็นความผิดพลาดในโจทย์คณิตศาสตร์อย่างง่าย

ในการทดลอง นักวิจัยจัดให้สุนัขนั่งมองขนมชิ้นแรก จากนั้นนำชิ้นที่สองมาโชว์ก่อนจะดึงฉากลงมาบัง ชั่วครู่แล้วจึงยกฉากขึ้น ทำให้สุนัขเห็นขนมชิ้นที่สองอีกครั้ง เมื่อนักวิจัยแอบหยิบขนมออกหรือวางเพิ่ม เจ้าตูบจะจ้องมองอยู่นาน ซึ่งตีความได้ว่าพวกมันรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

“สุนัขบอกได้ว่าหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง ไม่ใช่หนึ่งหรือสาม”

ข้อมูลที่รวบรวมจากกรรมการผู้ตัดสินพฤติกรรมการเชื่อฟังคำสั่งของสุนัขกว่า 200 คนระบุว่า บอร์เดอร์ คอลลีส์เป็นพันธุ์ที่ฉลาดที่สุด

“สุนัขที่ฉลาดที่สุดในแง่ความสามารถในการเรียนรู้จากการฝึกฝนมักเป็นสุนัขที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เพื่อให้ตอบสนองต่อมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้น” คอเรนบอก

ทั้งนี้ สุนัขพันธุ์ที่ฉลาดรองลงมาเรียงตามลำดับจาก 2-10 มีดังนี้ พุดเดิล, เยอรมัน เชปเพิร์ด, โกลเด้น รีทรีฟเวอร์, โดเบอร์แมน พินส์เชอร์, เช็ตแลนด์ คอลลี่, ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์, ปาปิลลอน, ร็อตไวเลอร์ และออสเตรเลียน แคตเทิล ด็อก

ส่วนพันธุ์ที่ฉลาดน้อยที่สุดเรียงลำดับจากท้ายตารางขึ้นมาประกอบด้วยอัฟกันฮาวด์, บาเซนจิ, บูลด็อก, เชาเชา, บอร์ซอย, บลัดฮาวด์, ปักกิ่ง, บีเกิล, มาสทิฟฟ์, แบสเส็ตฮาวด์

เรื่องราวมหัศจรรย์ของสัตว์โลกยังไม่จบเพียงแค่นี้ นักวิจัยที่เล่นกับแมว 42 ตัวนาน 4 สัปดาห์ ได้ข้อสรุปว่าแมวมีถนัดซ้าย-ขวาเหมือนคน

เช่นเดียวกับคนที่ผู้ชายมีแนวโน้มถนัดซ้ายมากกว่าผู้หญิง เพราะดูเหมือนแมวตัวเมียจะชอบใช้อุ้งมือขวามากกว่าเวลาทำภารกิจซับซ้อน ขณะที่แมวตัวผู้ชอบใช้อุ้งมือซ้าย

แม้การศึกษาก่อนหน้านี้ระบุว่าสัตว์อื่นๆ ไม่ถนัดการใช้มือด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ ยกเว้นชิมแปนซีและม้า ที่สามารถแยกแยะซ้ายกับขวาได้ ดังนั้น การค้นพบว่าแมวตัวผู้กับตัวเมียถนัดคนละด้านกันจึงสร้างความประหลาดใจอย่างยิ่งให้แก่ผู้เชี่ยวชาญ

อนึ่ง ในการทดลองล่าสุดนี้ นักวิจัยที่นำโดยเดเบอราห์ เวลส์ จากควีนส์ ยูนิเวอร์ซิตี้ เบลฟาสต์ในไอร์แลนด์เหนือจัดให้แมวทำภารกิจสามอย่าง เริ่มจากการนำทูน่าออกจากเหยือกที่เล็กมากจนแมวมุดหัวเข้าไปไม่ได้

ภารกิจที่สอง นักวิจัยชูหนูของเล่นในอากาศให้แมวคว้า และภารกิจสุดท้าย ใช้เชือกลากหนูของเล่นบนพื้นให้แมวไล่จับ

ในการทดลองที่ใช้หนูของเล่น พบว่าแมวทั้งตัวผู้ตัวเมียใช้อุ้งมือซ้าย-ขวาสลับกัน แต่ในภารกิจแรก นักวิจัยกลับพบว่าแมวตัวผู้ทั้ง 21 ตัวพยายามใช้อุ้งมือซ้ายเขี่ยทูน่าออกมาจากเหยือก ขณะที่แมวตัวเมีย 20 จาก 21 ตัวใช้อุ้งมือขวา

อนึ่ง สำหรับมนุษย์นั้น การได้รับเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายในปริมาณมากขณะอยู่ในครรภ์มารดา เชื่อมโยงกับการถนัดซ้าย

ดร.เวลส์ยอมรับว่า ไม่รู้เหตุผลชัดเจนว่าเหตุใดการถนัดซ้าย-ขวาของแมวจึงมีความเกี่ยวพันกับเพศของมัน แต่เป็นไปได้ว่ารูปแบบพฤติกรรมที่แตกต่างระหว่างตัวเมีย-ตัวผู้ เช่น ในการล่าและการเลี้ยงดูลูก อาจมีส่วนกำหนดการทำงานของอวัยวะในการเคลื่อนไหว